วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554


กิจกรรมที่ 12 ภาคสนามกลาง-เหนือ

จาก การที่ได้ไปทัศนศึกษาในครั้งนี้มีความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก กระผมมีความประทับใจหลายๆอย่างทั้งเรื่องของการเดินทาง ในการเดินทางอาจมีการหลับบ้างเล็กน้อย อาหารการกิน รวมไปถึงที่พัก คืนแรกไปพักที่มีทองรีสอร์ท จ.พระนครศรีอยุธยา ตอนไปถึงเห็นทางเข้าก็คิดว่าน่าจะเฮี้ยนมากเพราะทางเดินเข้าไปสุนัขเห่าตลอด ทางแต่พอได้เข้าที่พักผิดกับที่คิดไว้มากเพราะมันสบายมาก ตอนเช้าก็ออกเดินทางต่อได้ไปศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยาได้รับความรู้มากมาย ในวันต่อมาก็ได้เดินทางไปสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีความหมายว่า “ป่าละเมาะที่มีความเงียบแต่เมื่อทัวร์ของพวกเราไปถึงป่านี้ไม่มีคำว่าเงียบ สถานที่แห่งนี้ก็คือ “แพะเมืองผีมี ความแปลกมากๆเกิดการก่อตัวของดิน ทรายตามธรรมชาติ มีรูปร่างที่แตกต่างกันทั้งด้านรูปร่างและขนาด หลังจากนั้นได้เดินทางไปกว๊านพะเยาตอนนั้นเหนื่อยมากร้านอาหารอิสลามก็ไม่มี มีแต่อาหารอีสานก็ได้กินมาม่ารองท้องไปตามระเบียบ และได้เดินทางต่อไปวัดร่องขุ่นวัดนี้เป็นวัดที่แปลกและสวยมากเพราะมีสีขาว ทั้งวัดแตกต่างจากวัดอื่นมีแต่ห้องน้ำทีเป็นสีทองได้แค่ถ่ายรูปอยู่ข้างหน้า แต่ไม่ได้เข้าไปเพระเขาปิดปรับปรุงได้เข้าแต่ห้องน้ำสีเขียวและก็ได้ถ่ายรูป กับอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ตกกลางคืนไปเที่ยวเชียงรายไนท์บาร์ซ่า ก่อนจะไปเดินตลาดก็ได้ไปหาข้าวกินเดินหาอยู่สักพักหนึ่งก็เจอร้านอาหารอิส ลามตอนนั้นดีใจมากเพราะจะได้ทานข้าวกันสักทีจากที่กินมาม่ามาหลายมื้อและก็ กินข้าวข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย พอกินข้าวเสร็จมีความสงสัยอยู่อย่างหนึ่งว่าทำไมเจ้าของร้านพูดแปลกๆแต่ลูก สาวของเขาพูดปกติก็เลยตัดสินใจถาม เขาตอบแบบกระซิบว่าพม่า หลังจากนั้นก็รีบลุกจากร้าน และก็ได้ชมแสง สี เสียงของหอนาฬิกาเชียงรายมันสวยมาก ได้เจอกับสาวอเมริกันคนหนึ่งได้ทักทายพูดคุยกันแบบพอไถ่ไปได้คุยกันได้สัก พักก็ได้ชวนกันไปเดินตลาดไนท์บาร์ซ่าเป็นตลาดที่ใหญ่มากมีชาต่างชาติเยอะแยะ รุ่งเช้าของอีกวันก็เดินทางไปพระธาตุดอยสุเทพและพระตำหนักพูพิงค์ ทางขึ้นไปบนดอยเป็นทางที่คดเคี้ยวมากทำให้หลายๆคนต้องต้องเมารถกันตามๆไป ส่วนบนดอยปุยและยอดเขาอินทนนท์เป็นสถานที่ประทับใจมากที่สุดเพราะได้สวมชุด ชาวเขาเห็นอะไรที่ประทับใจมากๆในขณะนั้นบนดอยมีแต่ชาวเขาจอมปลอมมากมายได้ ถ่ายรูปอย่างสนุกสนานอีกสถานที่หนึ่งก็คือตอนไปนอนเต็นท์ที่ดอยอินทนนท์เป็น อะไรที่สุดๆมากทั้งความสูงและความหนาวเย็น ตอนแรกไปถึงคิดว่าจะไม่อาบน้ำกันเพราะหนาวมากแต่อาจารย์บอกว่าอุตสาห์มาถึง ดอยทั้งทีไม่ลองสัมผัสดูแล้วจะบอกคนอื่นไม่ได้มาว่ามันหนาวสักแค่ไหน ก็เลยตัดสินใจอาบน้ำกัน ตอนอาบน้ำแรกๆความรู้สึกที่สัมผัสได้คือว่ามันหนาวเย็นมากๆที่ผ่านมาไม่เคย สัมผัสความหนาวเย็นอะไรแบบนี้มาก่อน พออาบได้สักพักก็รู้สึกว่าชาไปหมดทั้งตัวหลังจากนั้นก็อาบน้ำแบบสบายๆเสร็จ ก็ได้มานั่งผิงไฟกัน ได้ปิ้งข้าวโพด มัน ที่ซื้อมาจากตลาดแม้วข้างล่าง ใครมีเสบียงอะไรก็เอาออกมากินกันพร้อมกับผิงไฟเป็นอะไรที่สนุกมาก ตอนตี5ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดดอยอินทนนท์ได้ไปที่ “สูงสุดแดนสยามอากาศในตอนนั้นไม่อยากพูดถึงเลยเพราะหนาวมากกว่าตอนอาบน้ำ ลงจากรถได้ไม่ถึง5นาที ลมพัดแรงทำให้หนาวมากจนต้องวิ่งขึ้นบนรถอีกครั้งเพื่อนคนอื่นขึ้นไปถ่ายรูปกันหมดแล้วเหลือแต่ดิฉันกับเพื่อนอีก3คน และอาจารย์แป้งที่ยังนั่งสั่นอยู่บนรถจนไม่กล้าลง สักพักหนึ่งก็ได้ลงไปพร้อมกับอาจารย์ และได้ไปไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่มองไม่เห็นเพราะลมลมพัดแรงและมีหมอกหนา แม่คนิ้งก็ไม่มี วันรุ่งขึ้นหลักจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จได้เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯถึงก็ ค่ำพอดีได้เดินช็อบปิ้งแถวหน้ารามเดินอบกันจนเกือบหาทางเข้าที่พังไม่เจอ และไปศึกษาในวัดพระแก้ว วัดโพธ์ ในวัดโพธ์มีพระนอนที่ใหญ่มากที่เคยเห็นมาและนั่งเรือข้ามไปวัดอรุณ ได้เข้าชม Museum siam เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศสยามทั้งหมด หลังจากนั้นเดินทางกลับจากกรุงเทพฯสุ่นครศรีฯโดยสวัสดิภาพ
โครงการ ศึกษาภาคสนาม ณ พื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือของประเทศไทยเป็นการไปแบบได้ทั้งความรู้และสนุก รวมกัน ได้สัมผัสในสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนการไปในครั้งนี้มีความรู้สึกว่าคุ้ม ค่าจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น